Page 283 - วัฒนศิลปสาร ปีที่ ๑๕ (ตุลาคม ๒๕๖๒ - พฤษภาคม ๒๕๖๓) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 283
วัดในเขตอ�ำเภอเมืองอุบลรำชธำนี จังหวัดอุบลรำชธำนี 275
เป็นต้นส่วนใดเป็นปลาย ปลูกโรงเสร็จเกิดเสียงลั่นครั่นครื้นทุกคืน จึงทราบว่า
เกิดจากตั้งเสาเอาปลายลงเพราะความไม่รู้ ต้องแต่งขันห้าขอสมาลาโทษ
เสียงลั่นจึงสงบไป ส่วนอิฐตราสรรพสิทธิ์ที่หลวงพ่อเก็บมา ๑๔-๑๕ ก้อนก็หาย
สูญไปด้วยไม่มีผู้ใดเห็นคุณค่าไม่มีการเก็บรักษา ต่อมาศาลาโรงหลังเล็กนี้ทรุด
โทรมจึงรื้อทิ้งไปหลายปีแล้ว เป็นอันว่าไม่มีกุฏิที่สร้างด้วยไม้จากต�าหนักวังสงัด
ตามที่เคยได้ยินมา”
๖.๒ ต�านานการปลงศพด้วยเมรุนกหัสดีลิงค์มีบันทึกไว้ในหนังสือผูก
ของวัดสุทัศนารามแต่ถูกไฟไหม้ไปแล้ว ผู้จดจ�ามาถ่ายทอดคือนางสุขุม ศิริภูมิ
บุตรีนางสมวาสนา รัศมี นางเทียมเจ้านางสีดา ต�านานว่าไว้ดังนี้
“นกหัสดีลิงค์เป็นนกที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ เป็นนกที่มีขนาดใหญ่โต
มีก�าลังและฤทธิ์เดชมากมายมหาศาล มีลักษณะพิเศษกว่านกอื่น ๆ คือ มีหัว
เป็นช้าง มีร่างกายเป็นนก กินช้างและสัตว์ใหญ่ในป่าเป็นอาหาร เช่น เสือ ควาย
คน อยู่มาวันหนึ่งหลังจากที่นกหัสดีลิงค์กินสัตว์ใหญ่จนหมดป่าแล้ว จึงบินไปจับ
คนในเมืองต่าง ๆ กินโดยเฉพาะผู้หญิง ลูกสาวเจ้าเมืองหลายคนถูกจับกินแต่นก
ก็ยังไม่อิ่ม ครั้นบินมาถึงทุ่งหลวง ทุ่งปาง เมืองสุวรรณภูมิ รอโอกาสจะจับลูกสาว
เจ้าเมืองสุวรรณภูมิกิน เจ้าเมืองสุวรรณภูมิจึงให้ไพร่พลออกสืบหาผู้มีฝีมือที่จะ
ฆ่านกนี้ หาไปจนถึงเมืองตักศิลา เจ้าเมืองตักศิลาได้มอบศรให้ลูกสาวชื่อเจ้านาง
สีดาไปฆ่านกหัสดีลิงค์ เจ้านางสีดายิงศรถูกนกหัสดีลิงค์ถึงแก่ความตาย เจ้าเมือง
สุวรรณภูมิได้ท�าพิธีเผาศพนก เมื่อมีเจ้านายสิ้นชีวิตก็จะสร้างหุ่นนกหัสดีลิงค์
ตั้งศพ และท�าพิธีเผาไปพร้อมกับศพกลายเป็นประเพณีสืบต่อกันมา” (วรรณศักดิ์
พิจิตร บุญเสริม และคนอื่น ๆ ๒๕๓๖: ๑๓๔)