Page 11 - วัฒนศิลปสาร ปีที่ ๑๓ (ตุลาคม ๒๕๖๐ - พฤษภาคม ๒๕๖๑) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 11
อุบลราชธานี และเจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม เป็นจุดเริ่มต้น ในเดือนกันยายน พ.ศ.
๒๕๕๙ รศ.วีณา วีสเพ็ญ และคณะอาสาสมัคร ได้แก่ พระภัภชรพงศ์ ปภสฺสโร
นายปกรณ์ ปุกหุต และนายณัฐพงค์ มั่นคง ท�าการส�ารวจโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ
เอกสารโบราณต่าง ๆ ที่เก็บรักษากระจัดกระจายในกุฏิต่าง ๆ และรวบรวมมาไว้เพื่อ
พิจารณาคัดเลือกส�าหรับการจัดแสดง ขออนุมัติงบประมาณจากวัด และศรัทธาของ
คณะท�างาน จัดหาตู้จัดแสดงทั้งท�าขึ้นใหม่ และใช้ตู้เก่าที่วัดมีอยู่เดิม
ภาพการรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุภายในวัด เพื่อคัดเลือกไปจัดแสดง
เมื่อเล็งเห็นศักยภาพในการจัดพิพิธภัณฑ์ จึงได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่
เกี่ยวข้องกับการส�ารวจวัดมณีวนาราม มาแต่แรกเริ่ม มาประชุมกันที่กุฏิใหญ่ เมื่อ
วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๙ กอปรด้วย กลุ่มงานอนุรักษ์เอกสารโบราณ น�าโดย
รศ.วีณา วีสเพ็ญ คณาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี น�าโดย
ผศ.ดร. สมศรี ชัยวณิชยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี น�าโดยคุณเชาวนี
เหล็กกล้า ภัณฑารักษ์ ส�านักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี น�าโดยคุณวิญญู
จูมวันทา พร้อมด้วยพระภิกษุสามเณร วัดมณีวนาราม เพื่อก�าหนดแนวทางและ
ส�ารวจสิ่งของต่าง ๆ เพิ่มเติม จึงได้ก�าหนดให้จัดกุฏิโบราณสถานทั้งสามหลังใน
วัดมณีวนาราม ตามหลัก “พระรัตนตรัย” คือ กุฏิพระอริยวงศาจารย์ เป็น “กุฏิพระธรรม”
เนื่องด้วยเก็บรักษาคัมภีร์ใบลาน อันเป็น “ธรรมเจดีย์” กุฏิธรรมระโต เป็น
“กุฏิพระพุทธ” เพราะประดิษฐาน พระพุทธมณีโชติ และพระพุทธรูปส�าคัญต่าง ๆ
และกุฏิใหญ่ เป็น “กุฏิพระสงฆ์” เหตุด้วยจัดแสดงภาพของพระบูรพาจารย์ และ
สมณบริขารประเภทต่าง ๆ ของอารามแห่งนี้
วัฒนศิลปสาร 9