Page 78 - วัฒนศิลปสาร ปีที่ ๑๕ (ตุลาคม ๒๕๖๒ - พฤษภาคม ๒๕๖๓) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 78
70 วัดในเขตอ�ำเภอเมืองอุบลรำชธำนี จังหวัดอุบลรำชธำนี
และเป็นหนึ่งในของดีเมืองอุบลตามค�าโบราณว่า “พระบทม์วัดกลาง พระบาง
วัดใต้ หอไตรวัดทุ่ง” และ “จั่งแม่นงามปานพระบทม์” พระเจ้าใหญ่พระบทม์
เป็นพระประธานในวิหารเก่าและพระประธานในวิหารหลังปัจจุบันของวัดกลาง
(พระครูวิสิฐพัฒนาภรณ์ ๒๕๕๗: ๕)
๒.๓ หีบพระธรรม
หีบพระธรรมของวัดกลางมี ๒ ใบ สภาพช�ารุดเพราะปลวก
หีบพระธรรมใบที่ ๑ เขียนลายรดน�้า เหลือเพียงตัวหีบกับฝา ลายรดน�้าได้รับ
อิทธิพลจากศิลปะอยุธยา แต่การเขียนไม่ถมช่องไฟซึ่งเป็นลักษณะที่พบเห็นทั่วไป
ในภาคอีสาน เช่น จ. มหาสารคาม จ. ขอนแก่น หีบพระธรรมใบที่ ๒ เขียนลาย
รดน�้าแบบไม่ถมช่องไฟเหมือนกันกับใบที่ ๑ ยังเหลือตัวหีบ ฐานและฝา
ลวดลายขดสานกันแบบศิลปะลาว ลวดลายฝาเป็นรูปเทพพนมคล้ายกันกับ
หีบพระธรรมในหอศิลป์ราชธานีศรีวนาลัย วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี
๒.๔ เม็ง
เม็งหรือธรรมาสน์ปาฏิโมกข์ ศิลปะช่างเมืองอุบลราชธานี จ�านวน
๒ หลัง มีพนักพิงรูปใบเสมา ที่ด้านหลังมีจารึกอักษรบนแผ่นโลหะระบุผู้สร้าง
และปีสร้างว่า “อุตรายะสา ธรรมาสน์นิมิต เริ่มคิดโดย พระมหามณี ธมฺมจนฺโท
และพระภิกษุสามเณร ประกอบด้วยอุบาสกอุบาสิกา ผู้บริจาคทรัพย์
และความคิด ก�าลังกาย ก่อสร้างถวายเป็นพุทธบูชาในพระพุทธสาสนา ณ วัดกลาง
เมืองอุบลราชธานี แต่เดือนสิบเอ็ด ปีขาน ตรงกับเดือนตุลาคม พุทธศักราช
๒๔๘๑ ขอความสุขสวัสดี จงมีแก่ท่าน สิ้นกาลนาน”
พระครูวิสิฐพัฒนาภรณ์ (๒๕๖๒: สัมภาษณ์) ให้ความเห็นว่า
ธรรมาสน์ปาฏิโมกข์นี้อาจเป็นของญาท่านกัญญา ส่วนพนักพิงท�าเพิ่มสมัย
หลวงพ่อมณีก็เป็นได้