Page 21 - วัฒนศิลปสาร ปีที่ ๑๓ (ตุลาคม ๒๕๖๐ - พฤษภาคม ๒๕๖๑) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 21
ต่อมาใน พ.ศ. ๒๓๓๔ อ้ายเซียงแก้วที่ตั้งอยู่บ้านเขาโอง แขวงเมืองโขง
ตั้งตนเป็นผู้วิเศษมีผู้คนนับถือมาก คิดก่อการกบฏยกกองก�าลังเข้าตีเมืองนคร
จ�าปาสัก พอดีกับช่วงเวลานั้นพระเจ้าองค์หลวงไชยกุมารเจ้าเมืองนครจ�าปาสักก�าลัง
ล้มป่วยหนักอยู่ไม่คิดต่อสู้และถึงแก่กรรมลง อ้ายเซียงแก้วจึงสามารถตีเมืองนคร
จ�าปาสักได้โดยง่าย เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทราบเหตุจึง
โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าเมืองนครราชสีมา (ทองอิน) เมื่อครั้งยังเป็นพระพรหมยกบัตรยก
กองทัพเมืองนครราชสีมาไปปราบกบฏเซียงแก้ว แต่ในขณะที่กองทัพเมืองนครราช
สียังมาไม่ถึง พระประทุมสุรราช และท้าวฝ่ายหน้าที่ตั้งอยู่เมืองสิงห์ท่า (อ�าเภอเมือง
ยโสธรปัจจุบัน) ได้ยกกองก�าลังไปตีอ้ายเซียงแก้ว ทั้งสองฝ่ายได้กระท�าการสู้รบกัน
ที่แก่งตะนะ กองทัพอ้ายเชียงแก้วแตกพ่ายไป อ้ายเซียงแก้วถูกจับได้และถูกประหาร
ชีวิต จากความดีความชอบในการปราบกบฏครั้งนี้เองพระบาทสมเด็จพระพุทธ
ยอดฟ้าจุฬาโลก จึงได้โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ท้าวฝ่ายหน้าเป็นพระยาวิไชยขัติยวงศา
ครองเมืองนครจ�าปาสัก และหลังจากได้โปรดเกล้าฯ ให้พระประทุมสุรราช เป็น
พระประทุมวรราชสุริยวงษ์ ครองเมืองอุบลราชธานี เมื่อวันจันทร์ แรม ๑๓ ค�่า เดือน
๘ จุลศักราช ๑๑๕๐ (พ.ศ. ๒๓๓๕) และพร้อมกันนั้นก็ได้โปรดให้ยกฐานะ
บ้านห้วยแจระแมขึ้นเป็นเมืองอุบลราชธานีขึ้นกรุงเทพฯ และต่อมาพระประทุม
วรราชสุริยวงษ์จึงได้ย้ายครอบครัวไพร่พลจากหมู่บ้านห้วยแจระแมมาตั้งที่บ้านร้าง
ริมแม่น�้ามูล อันเป็นที่ตั้งอ�าเภอเมืองอุบลราชธานีในปัจจุบัน และพระประทุมวรราช
สุริยวงษ์ (เจ้าค�าผง) ได้สร้างวัดหลวงขึ้นเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองวัดแรกด้วย ซึ่งพอจะ
ยึดถือได้ว่าเมืองอุบลราชธานีก็ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นเมือง เมื่อวันจันทร์
แรม ๘ ค�่า เดือน ๘ จุลศักราช ๑๑๕๔ หรือ พ.ศ. ๒๓๓๕ ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๖ กรกฎาคม
พ.ศ. ๒๓๓๕ นั่นเอง
พระประทุมวรราชสุริยวงษ์ (เจ้าค�าผง) ก็ได้น�าพระแก้วบุษราคัมมา
ประดิษฐานไว้ ณ วัดหลวง ซึ่งเรื่องพระแก้วบุษราคัมนี้ยังมีเรื่องเล่าสืบมา คือ
เมื่อสิ้นอายุขัยของพระประทุมวรราชสุริยวงษ์ (เจ้าค�าผง) ต่อมาท้าวเพี้ยกรมการ
เมืองอุบลฯ เกรงว่าข้าหลวงจากกรุงเทพฯ ซึ่งมาตรวจราชการที่เมืองอุบลฯ จะขอเอา
พระแก้วบุษราคัมไปทูลเกล้าฯ ถวายพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ จึงได้รีบน�าพระแก้ว
วัฒนศิลปสาร 19