Page 22 - วัฒนศิลปสาร ปีที่ ๑๓ (ตุลาคม ๒๕๖๐ - พฤษภาคม ๒๕๖๑) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 22
บุษราคัมไปซ่อนและปกปิดไว้ ครั้นแล้วก็มีผู้ออกความคิดว่า พระเทวธฺมมี (ม้าว)
เจ้าอาวาสวัดศรีทองในสมัยนั้น (ปัจจุบัน คือวัดศรีอุบลรัตนาราม) ซึ่งเป็นสัทธิ
วิหาริกของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ขณะทรงผนวช
ท่านอาจจะเป็นที่เกรงขามของข้าหลวงจากกรุงเทพฯ ได้ ถ้าหากพวกเขาเหล่านั้นจะ
ออกปากขอพระแก้วบุษราคัมไป ดังนั้นจึงได้อัญเชิญพระแก้วบุษราคัมออกจาก
ที่ซ่อนมาถวายให้อยู่ในความคุ้มครองของพระเทวธมฺมี (ม้าว) ที่วัดศรีทอง
(วัดศรีอุบลรัตนาราม) จนปัจจุบัน
ส่วนพระแก้วโกเมน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปอุบัติขึ้นมาพร้อมกับพระแก้วบุษราคัม
ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม) เป็นพระพุทธรูปอัญมณีใน
ตระกูลแก้วเก้าประการ คือ เพชรดี มณีแดง เขียวใสแสงมรกต เหลืองใสสดบุษราคัม
แดงแก่ก�่าโกเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาฬ มุกดาหารสีหมอกมัว แดงสลัวเพทาย
สังวาลสายไพฑูรย์ แต่เท่าที่ทราบและเปิดเผย ก็มีอยู่เพียง ๓ องค์ เท่านั้นที่ปรากฏ
คือ พระแก้วมรกต (เขียว) ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (กรุงเทพฯ)
พระแก้วขาว (ไพฑูรย์) ประดิษฐานอยู่ที่วัดหลวง อ�าเภอเมืองอุบลราชธานี
จังหวัดอุบลราชธานี พระแก้วบุษราคัม (เหลือง) ประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีทอง
(วัดศรีอุบลรัตนาราม)
ส�าหรับพระแก้วโกเมนที่เจ้าค�าผงได้อัญเชิญมา ไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างไร
เพราะเกรงว่าจะเป็นภัย มีผู้ที่จะยื้อแย่งน�าไปทูลเกล้าฯ เจ้านายทางกรุงเทพฯ จึงได้
ปกปิดเป็นความลับตลอดมา ครั้นเจ้าค�าผงได้คิดมาสร้างเมืองและวัดขึ้น จึงได้น�า
พระแก้วบุษราคัมเพียงองค์เดียวไปประดิษฐานไว้ที่วัดหลวง ส่วนพระแก้วโกเมนคง
ถูกน�าไปซ่อนไว้ที่วัดกุดระงุม โดยได้น�าท่อนไม้จันทน์มาท�าเป็นผอบครอบเอาไว้เป็น
เวลานาน ตามค�าบอกเล่าของผู้ที่ได้รับใช้ที่อยู่ใกล้ชิดซึ่งได้เล่าสืบต่อกันมา
จนกระทั่งพระประทุมวรราชสุริยวงษ์ สิ้นอายุขัย และกาลเวลาต่อมาพระมหาราช
ครูท่านหอแก้ว ได้มรณภาพ รัชกาลที่ ๓ จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
พระอริยวงศาจารย์ญาณวิมลอุบลสังฆปาโมกข์ (สุ้ย) เปรียญ ๓ ประโยค นิสิต
วัดสระเกศ กรุงเทพมหานคร รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่
มาเป็นหลักค�าเมืองอุบล สถิต ณ วัดป่าน้อย ปัจจุบัน คือวัดมณีวนาราม
20 วัฒนศิลปสาร