Page 47 - วัฒนศิลปสาร ปีที่ ๑๓ (ตุลาคม ๒๕๖๐ - พฤษภาคม ๒๕๖๑) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 47
ในเกียรติภูมิของวัฒนธรรมท้องถิ่น ยิ่งเมื่อมีการใช้สอยผ้ากาบบัวโดยชาวอุบล ก็ยิ่ง
แสดงให้เห็นถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลในท้องถิ่น เพราะเกิดการสร้างงานอาชีพ
อนึ่ง การรวบรวมหลายเทคนิควิธีการทอในผืนผ้า ย่อมเกิดประโยชน์ในการ
ฝึกฝนทักษะการทอ เกิดพื้นฐาน เกิดพัฒนาการทางฝีมือให้ดียิ่งขึ้นไปในที่สุด
เมื่อพิจารณาจากสี เริ่มจากขาวอันพิสุทธิ์ของกลีบดอกหรือกาบบัว สีอาจ
ไล่แปรเปลี่ยนเป็นสีชมพู เขียวจาง ทองอ่อน เทา เขียวขี้ม้า ไปจนถึงน�้าตาลไหม้
แสดงลักษณะทางธรรมชาติที่สอดคล้องกับการใช้สี ทุกยุค ทุกสมัย ปรับไปใช้ได้กับ
ทุกเพศ ทุกวัย ผ้ากาบบัวของชาวอุบลนี้ จึงไม่ควรเป็นแต่เพียงผ้าที่สมมุติให้แทน
เอกลักษณ์ หากแต่เป็นจุดเริ่มของพลังรักในท้องถิ่น ที่แสดงถึงความเอื้อเฟื้อเกื้อกูล
ต่อเกียรติภูมิของกลุ่มชนชาวอุบล
ในขณะที่ “ผ้ากาบบัว” ก�าลังเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศ และ
ต่างประเทศ เพราะเป็นผ้าเอนกประสงค์ ใช้ได้ทุกเพศ ทุกวัย ใช้เป็นผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะ
ผ้าประดับตกแต่งที่มีคุณค่าทางศิลปะ (ไม่มีข้อจ�ากัดเหมือนผ้าทอพื้นเมืองบางชนิด
ที่ใช้ได้เฉพาะกรณี เช่น เป็นผ้าสไบเฉียง ผ้าคาดเอว หรือใช้ได้เฉพาะสตรีเท่านั้น)
แม้แต่คณะรัฐมนตรี ก็สวมใส่ “ผ้ากาบบัว” โดยทั่วหน้า
ที่น่าภาคภูมิใจก็คือว่า เจ้าชายอากิชิโน พระราชโอรสสมเด็จพระจักรพรรดิ
ญี่ปุ่น ที่เสด็จฯ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อไม่นานมานี้ ก็ฉลองพระองค์ด้วย
“ผ้ากาบบัว”
วัฒนศิลปสาร 45