Page 48 - วัฒนศิลปสาร ปีที่ ๑๓ (ตุลาคม ๒๕๖๐ - พฤษภาคม ๒๕๖๑) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 48
สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือว่า ค�าว่า “ผ้ากาบบัว” มีผู้สงสัยในการตั้งชื่อ โดยมี
โทรศัพท์จาก กทม. บอกว่าเป็นชาวอุบลฯ รับราชการเป็นอัยการ ที่ส�านักอัยการ
สูงสุด เป็นผู้นิยมชมชอบผ้ากาบบัวเช่นเดียวกับชาวอุบลฯ ทั้งหลาย แต่ยังข้องใจว่า
ผ้ากาบบัว” ท�าไมไม่เรียกว่า “ผ้ากลีบบัว” เพราะโดยสามัญส�านึกทั่วไป หรือแม้แต่
พจนานุกรมฯ ก็ได้ไห้ความหมายของค�าว่า “กลีบ” ไว้ว่า “ส่วนของดอกไม้ที่เรียงหรือ
ช้อนกันเป็นชั้น ๆ รอบเกสร” โดยนัยความหมายนี้ กลีบบัว ก็คือส่วนที่เรียงซ้อนกัน
เป็นชั้นๆ รอบเกสรดอกบัว ส่วนค�าว่า “กาบ” ตามความเข้าใจตั้งแต่เด็กๆ มาแล้ว
หมายถึง “กาบกล้วย” “กาบหมาก” หรือ “กาบมะพร้าว” ไม่ได้หมายถึง “กลีบดอกไม้”
ที่มีความเห็นเช่นนี้ มิใช่จะโต้แย้งหรือคัดค้านแต่ประการใด เพียงแต่ใคร่ขอทราบ
เหตุผลในการตั้งชื่อ “ผ้ากาบบัว” เพื่อเผยแพร่ให้ผู้ที่ยังสงสัยได้ทราบต่อไป
เรื่องนี้ผู้เขียนเองก็ประสงค์จะทราบเช่นเดียวกัน ประกอบกับมีโทรศัพท์
จากสมาคมชาวอุบลราชธานีใน กทม. ย�้ามาอีกว่า มีผู้สงสัยกันมาก ควรขยายความ
เรื่องนี้ให้ชัดเจน ผู้เขียนจึงได้ไปขอความกระจ่างกับ “ผู้รู้” หลายท่าน เช่น
ร.ต.ต.หญิงสุดา งามนิล และพี่บ�าเพ็ญ ณ อุบล อดีตอัยการชั้นฏีกา ซึ่งเป็นหัวเรี่ยว
หัวแรงคนส�าคัญของคณะท�างาน “โครงการสืบสานผ้าไทยสายใยเมืองอุบลฯ”
รวมทั้งเป็นผู้เสนอชื่อ “ผ้ากาบบัว” ให้เป็นชื่อเรียกผ้าเอกลักษณ์เมืองอุบลฯ
พี่บ�าเพ็ญ ณ อุบล ได้เล่าความเป็นมาและเหตุผล พร้อมกับเอกสารข้อยุติ
ของคณะท�างานเรื่องนี้ รวม ๔ ข้อ ดังนี้
ชื่อของผ้าเอกลักษณ์เมืองอุบล “ผ้ากาบบัว”
เนื่องจากในการประชุมคณะท�างาน พิจารณาลายผ้าพื้นเมือง
คุณพ่อบ�าเพ็ญ ณ อุบล ได้เสนอชื่อ ผ้ากาบบัว อันเป็นชื่อผ้าในวรรณกรรมโบราณ
อีสาน ซึ่งไม่อาจทราบหรือพบในยุคปัจจุบันแล้ว ให้เป็นชื่อเรียกผ้าเอกลักษณ์
เมืองอุบล
ชื่อผ้ากาบบัว ออกเสียงง่าย ไพเราะ และง่ายต่อการจ�า
ชื่อผ้ากาบบัว สอดคล้องกับความนิยมในเรื่องสีของยุคปัจจุบัน โดย
จะเห็นได้ว่า ในการน�าเสนอข่าวแฟชั่นของทุกปี จะต้องมีการน�าเสนอสีแนวธรรมชาติ
(Earth Tone) อยู่เสมอ สีของกาบบัว (ภาษาท้องถิ่น) หรือ กลีบบัว ซึ่งไล่อ่อนแก่
จากขาว ชมพู เทา เขียว น�้าตาล อยู่ในความนิยมเสมอ และยังสอดคล้องกับ
การย้อมจากพืชพรรณธรรมชาติอีกด้วย
46 วัฒนศิลปสาร