Page 146 - วัฒนศิลปสาร ปีที่ ๑๕ (ตุลาคม ๒๕๖๒ - พฤษภาคม ๒๕๖๓) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 146
138 วัดในเขตอ�ำเภอเมืองอุบลรำชธำนี จังหวัดอุบลรำชธำนี
อุโบสถหลังนี้มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่าง
ศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นกับศิลปะล้านช้างซึ่งเป็นรูปแบบที่ตกสืบทอดมาจาก
ศิลปะอยุธยาตอนปลาย อาคารมีขนาด ๓ ห้อง ก่ออิฐถือปูน หันหน้าไปทางทิศ
ตะวันออก มีระเบียงด้านหน้า ราวบันไดเป็นรูปพญานาคขี่จระเข้แบบท้องถิ่น
อีสานท�าหน้าที่เป็นทวารบาลของหอพระพุทธบาท ซึ่งแฝงปริศนาธรรมว่า
ถ้าบวชเข้ามาแล้วไม่ปฏิบัติกิจของสงฆ์ ฉันแล้วเอนเพลแล้วนอนก็ไม่แตกต่าง
อะไรกับจระเข้ จึงต้องมีกฎระเบียบมาบังคับเอาไว้คือพญานาค นอกจากนี้
ส่วนฐานเป็นฐานปากกระเภาผสมกับฐานสิงห์ และมีฐานเขียงรองรับอีกชั้นหนึ่ง
โครงหลังคาเป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ เป็นหลังคาแบบชั้นลด
๒ ชั้น ชั้นละ ๓ ตับ แบบภาคกลาง มีลักษณะแบบอีสานผสมกับศิลปะไทย
หน้าบันด้านหน้าและด้านหลังจ�าหลักไม้ปิดทองประดับกระจกเป็นรูปพระอินทร์
ประทับในบุษบกบนช้างเอราวัณสามเศียร ประดับลายก้านขด มีเสาบัวกลีบขนุน
๔ ต้นรองรับหน้าบัน มีสาหร่ายรวงผึ้งประดับตกแต่งทั้ง ๓ ช่อง ระหว่างเสา
๔ ต้น แกะสลักลวดลายดอกกาละกับอย่างงดงาม นอกจากนี้มีคันทวยรูป
เทพพนมรองรับไขราทั้งสิ้น ๑๐ ตัว มีเสาพะไลคู่ด้านหน้ารองรับหลังคา
ระหว่างเสาพะไลมีพนัก (สุรชัย ศรีใส ๒๕๕๕: ๑) มีก�าแพงแก้วล้อม ๒ ชั้น
มีปูนปั้นเป็นเรื่องราวอาจเป็นชาดกหรือปริศนาธรรม ประดับไว้ด้วยปรากฏอยู่
ที่ก�าแพงแก้วด้านหน้าและด้านหลังของหอพระพุทธบาท
ด้านหลังของหอพระพุทธบาทก่อเป็นเจดีย์อิงครึ่งองค์ก่ออิฐถือปูน
ฉาบปูน ท�าหน้าที่ค�้ายันผนังด้านทิศตะวันตกเป็นฝีมือท�าเพิ่มเติมของช่างค�าหมา
แสงงาม และใช้บรรจุอัฐิของเสด็จเจ้าอุปราชค�าพันธ์ผู้ครองนครจ�าปาสัก
(รักษาการเจ้านคร) ซึ่งทายาทน�ามาบรรจุไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ (ห้างหุ้นส่วนจ�ากัด
เอกพรไพศาล ๒๕๔๗: ๑๕) ปัจจุบันหลังการบูรณะหอพระพุทธบาทได้น�าไปเก็บ
รักษาไว้ที่อื่นแทน