Page 161 - วัฒนศิลปสาร ปีที่ ๑๕ (ตุลาคม ๒๕๖๒ - พฤษภาคม ๒๕๖๓) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 161
วัดในเขตอ�ำเภอเมืองอุบลรำชธำนี จังหวัดอุบลรำชธำนี 153
น�าซุงล่องมูลก็ประกาศแก่พวกหาปลาให้เก็บมองเก็บอวนแล้วมาช่วยล่องเสา
เอาบุญ มีชาวประมงมาช่วยล่องเสาเป็นจ�านวนมาก เมื่อจะลากเสาลงท่า
และลากเสาเข้าวัดก็เชิญชวนหนุ่มสาวช่วยลากเช่นกัน เวลาลากเสาเข้าวัด
มีผู้คนมาช่วยมากกว่า วิธีลากใช้หนังผูกล้อพระสงฆ์องค์เณรและญาติโยม
ช่วยกันลาก เป็นงานสนุกมีโห่ร้องมีกลองยาวตีเร้าใจให้จังหวะ ลากไปในที่
ที่พอจะลากไปได้ไม่มีถนน ถ้าตกปลักก็ชักกะเย่อหลายครั้งจึงขึ้นได้ ถ้าขึ้นเนิน
ก็ต้องลากจนตัวเอียง เมื่อถึงวัดก็ถากเสาตกแต่ง ครั้นเตรียมการเสร็จก็ป่าวร้อง
เชิญชวนกันท�าบุญปลูกศาลา ยกศาลาการเปรียญ ถัดจากนั้นช่างก็ก่อสร้างไป
จนเสร็จ” (พระราชรัตโนบล ๒๕๓๕: ๒๔-๒๕)
๖.๒ วัดทุ่งศรีเมืองเป็นที่ลุ่มต�่า ต้องถมดินมากราว ๗๕ คันรถ ขุดดินขึ้น
มาถมจนเกิดหนองมะแซว และหนองดินจี่ เป็นหนองน�้าใหญ่อยู่ในบริเวณวัด
ภายหลังจึงถมหนองน�้าทั้งสองนี้
๖.๓ เดิมมีวัดสวนสวรรค์อยู่ใกล้วัดทุ่งศรีเมืองและวัดมณีวนาราม ถูกยุบ
รวมเป็นวัดทุ่งศรีเมือง
๖.๔ วัตรปฏิบัติของพระสงฆ์วัดทุ่งศรีเมือง เป็นแบบพระสงฆ์ไทย ได้แบบ
อย่างมาจากวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ในภาคกลาง ถือเป็นวัตรปฏิบัติต้นแบบ
ของเมืองอุบลราชธานี
๗. ความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับชุมชน
๗.๑ ผู้อุปถัมภ์วัดทุ่งศรีเมืองคือชุมชนวัดทุ่งศรีเมือง ๑-๒ และศาลา
ประชาคม
๗.๒ วัดทุ่งศรีเมืองเป็นที่บรรจุอัฐิบุคคลส�าคัญ ได้แก่
- เจ้าอุปราชค�าพันธ์ ณ จ�าปาศักดิ์ อดีตเจ้าผู้ครองนครจ�าปาสัก
- รองอ�ามาตย์ตรี ขุนวิเทศธนกิจ
- ขุนพิพัฒน์พานิช (ก๋งเฉย สุรพัฒน์)
- พันโท ค�า วิเสโส อดีตผู้น�าคณะเทศน์ธรรมัสสวนะสามัคคี