Page 32 - วัฒนศิลปสาร ปีที่ ๑๗ (มิถุนายน ๒๕๖๔ - พฤษภาคม ๒๕๖๕) สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 32
หน้า | 28
ร้อนของโรงแรมได้มากทีเดียว ประตูกว้างเท่ากับความกว้างของช่วงเสาบานประตู เป็นบานพับคล้ายฝาเฟี้ยมของ
้
รอุนัข้อุงโรงแรมได้้ม�กทีเด้ียวั ประติูกวั�งเท�กับควั�มกวั�งข้อุงชวังเสำ� บ�นัประติ เปนับ�นัพับคล�ยฝั่�เฟ�ยม
่
้
็
ู
้
ี
้
่
์
ุ
ิ
ั
ข้อุงเร้อุนัไทย พบเกบไวัสำอุงข้้�งข้อุงประติแติป่จัจับนัประติได้้ถุกรอุอุอุกไป จัักร�พชญ อุติโนั (2556) ได้้กล�วัถุ่ง
่
ั
้
�
ู
ู
้
็
ู
ั
่
เรือนไทย พับเก็บไว้สองข้างของประตูแต่ปัจจุบันประตูได้ถูกรื้อออกไป (จักราพิชญ์ อัตโน, 2556) ได้กล่าวถึง
ความสำคัญของอาคารไม้ 3 ชั้น ซึ่งในอดีตถือเป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟมากที่สุด ว่า ่
ั
�
�
�
่
ู
้
้
ี
ุ
ี
ควั�มสำำ�คญข้อุงอุ�ค�รไม 3 ชั�นั ซึ่่งในัอุด้ติถุ้อุเปนัโรงแรมทีอุยใกลสำถุ�นัรถุไฟม�กทีสำด้ วั�
็
ิ
�
ั
่
่
ุ
ั
ื
็
ี
�
“ ตั้งแต่มีสถานีรถไฟบริเวณนี้ก็เจริญขึ้นมาก พลุกพล่านไปด้วยผู้คน แสงไฟสว่างไสวทั้งคืน ผู้คนลงจาก
ิ
�
�
ี
ึ
ี
“ ตงแตมสถุานรถุไฟบ้รเวณ์นกเจรญข้นมาก พลกพลานไปด้วยผ่คน แสงไฟสวางไสวทงคน
่
ู
้
้
้
ผ่คนลงจากรถุไฟเข้ากจะมาเชาโรงแรมนอย เพราะเปนโรงแรมเด้ยวทอยใกลสถุานรถุไฟมากทสด้ คนทจะไป
่
ู
ี
่
�
้
ู
ี
รถไฟเขาก็จะมาเช่าโรงแรมนี้อยู่ เพราะเป็นโรงแรมเดียวที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟมากที่สุด คนที่จะไปกรุงเทพฯ หรอ ื
็
�
ี
�
ี
ี
่
ู
ุ
�
ี
็
กลับจากกรุงเทพฯ แล้วจะไปต่อที่อื่น แต่มาไม่ทันรถโดยสารก็จะพักกันที่นี่ ด้านล่างของโรงแรมมีอาหารตามสง ่ ั
ี
ี
�
�
ั
กรงเทพฯหรอกลบ้จากกรงเทพฯ แลวจะไปตอทอน แตมาไมทนรถุโด้ยสารกจะพกกนทน ด้านลางข้องโรงแรม
้
่
�
ี
้
่
็
ุ
ั
่
ั
ั
ุ
ื
ื
�
่
ี
ุ
่
้
์
่
ี
ั
ขาย ด้านหลังมีตลาดสดกับโรงภาพยนตร์ เรียกว่ามีทุกอย่างไว้คอยบริการครบวงจร ” ิ
ั
�
มอาหารตามสังข้าย ด้้านหลงมตลาด้สด้กบ้โรงภาพยนตร เรยกวามทกอยางไวคอยบ้รการครบ้วงจร ”
ี
ี
่
้
ี
ุ
ในเวลาต่อมา ฮกต๋าย โกศัลวิตร และนางตน โกศัลวิตร (ภรรยา) ได้ตัดสินใจขายอาคารไม้หลังนให้กับ
้
็
เพื่อนสนิท เพื่อให้เพื่อนได้ทำธุรกิจในนามโรงแรมสากล และต่อมาอาคารไม้ 3 ชั้นหลังนี้กไดเป็นมรดกตกทอดจาก
ุ
ุ
ุ
รุ่นสู่รุ่นจนกระทั่ง คณอภิวัชร์ ศภากร (ทายาทร่นที่ 3) ได้เข้ามารับช่วงต่อ แต่ด้วยวิถีชีวิตของคณอภิวัชร์ ศุภากร
ุ
ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่แรกทั้งเรียน ทั้งทำงาน (บริษัทการบินไทย) ยังอาศัยอยู่ใน
กรุงเทพมหานครเป็นหลัก ทำให้ไม่มีผู้ดูแลอาคารไม้ 3 ชั้น จึงทำให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จนกระทั่งเมื่อ
้
ี
มารดาไดเสยชีวิตลง คุณอภิวัชร์ ศุภากร และ คุณนภัสวรรณ ศุภากร (ภรรยา) จึงได้ตัดสินใจ ร่วมกันว่าจะเดินทาง
้
กลับมาดูแลอาคารโรงแรมไม้ 3 ชั้น อาคารไม 3 ชั้นโบราณ ทรงแปดเหลี่ยมที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองวารินชำราบ
ุ
์
่
แต่ด้วยสภาพอาคารไม้ทีทรดโทรม แต่คุณอภิวัชร ศุภากรเห็นความสำคัญที่อยากจะอนุรักษ์อาคารไม้ 3 ชั้นแห่ง
ี
่
ื่
เดยวในจงหวัดอบลราชธานีไว้ตอไป จนกระทั่ง พ.ศ. 2563 จึงได้ว่าจ้างบริษัทให้ปรับปรุงอาคารเพอความแข็งแรง
ั
ุ
ี
์�ษณิ์) ถุ้อุเป็นัหนั่�งในั
ุ
์
สำวัยง�มด้ังเด้ิม และเปล�ยนัชอุใหม่เปนั “โรงแรมเวัฬ�วั�รนั” (อุภัิวััชร ศิภั�กร, สำัมภั
้
�
็
ิ
สวยงามดังเดิม และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “โรงแรมเวฬาวาริน” (อภิวัชร์ ศุภากร, สัมภาษณ) ถือเป็นหนึ่งในแลนด์
ั
์
ีธ�นัี และในันั�มหนั่วัยอุนัุรักษ์สำิงแวัด้ล้อุมธรรมช�ติิและศิิลปกรรมจัังหวััด้
�
ั
ำ
ี
ั
แลนัด้ม�รค ทสำ�คญข้อุงจังหวัด้อุุบลร�ช
�
์
มาร์ค ที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธาน และในนามหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติและศิลปกรรมจังหวัด
อุบลราชธานี ต้องขอชื่นชม คุณอภิวัชร์ ศุภากร ที่เป็นบุคคลตัวอย่างในการอนุรักษ์แหล่งศิลปกรรมของจังหวัด
ั
้
้
ิ
่
อุบลราชธานีไว้ได้เป็นอย่างดี ดังคำกลาวทงทาย ว่า (อภิวัชร์ ศุภากร. 2564: สมภาษณ์)
้
ี
ิ
“...อาคารหลังนี้ไม่ได้เป็นแค่ของเรา แต่เป็นของทุกคนในอำเภอวาริน และต้องการที่จะสร้างคุณค่า
�
ั
�
็
่
ี
็
่
่
้
“...อาคารหลงนไมได้เปนแคข้องเรา แตเปนข้องทกคนในอาเภอวารนฯ และตองการทจะ
ุ
ำ
กลับคืนชุมชน เหมือนกับที่ชุมชนให้คุณค่ากับอาคารหลังนี้...” ั �
ั
้
สรางคณ์คากลบ้คนชมชน เหมอนกบ้ทีชมชนใหคณ์คากบ้อาคารหลงนี...”
ุ
ุ
่
ื
�
ื
ั
ุ
ุ
่
้
ั
้
ภาพก่อนการปรับปรุงอาคารไม้ 3 ชั้น
่
ั
ภั�พอุ�ค�รไม 3 ชั�นั กอุนัปรบปรง
ุ
30 วารสารวัฒนศิิลปสาร ปีที่่� 17
ำ
่
ย่านชุุมชุนเก่่า...อำำาเภอำวาริินชุาริาบ