Page 60 - ซอสองสายไทย : ณณฐ วิโย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 60

๔๒        ซอสองสายไทย







                              สะล้อเล็ก คันทวนยาวประมาณ ๖๕-๗๐ เซนติเมตร หน้าซอกว้างประมาณ ๑๐
               เซนติเมตร ลีลาในการบรรเลงค่อนข้างโลดโผนมีเสียงแหลมเล็ก สอดรับกับเสียงสะล้อกลาง โดยตั้ง

               เสียงแบบลูกสี่ หากเทียบเป็นเสียงสากล คือ สายทุ้มเป็นเสียง ซอลสูง (G) สายเอกเป็นเสียง โดสูง (C)
                              โดยทั่วไปนิยมบรรเลงร่วมกับซึงเรียกว่า “วงสะล้อซึง” ซึ่งเป็นวงที่มีเสียงจาก

               เครื่องสายเป็นหลัก นิยมใช้เล่นกันตามท้องถิ่นภาคเหนือทั่วไป จำนวนเครื่องดนตรีที่ใช้ประสมวงนั้น

                                                                                 ื่
               ไม่แน่นอน แต่จะมีสะล้อและซึงเป็นหลักเสมอ นอกจากนั้นจะมีเครื่องดนตรีอน ๆ เข้ามาประกอบ
                                                                         ื้
               เช่น ปี่ก้อย หรือขลุ่ย กลองป่งโป้ง ฉิ่ง ฉาบ นิยมใช้บรรเลงเพลงพนบ้านที่ไม่มีการขับร้อง เช่น
               เพลงปราสาทไหว ล่องแม่ปิง เป็นต้น หรือจะบรรเลงเพลงที่มีการขับร้องก็ได้ ในปัจจุบันสามารถใช้
               บรรเลงเพลงสมัยใหม่ เช่น เพลงลูกทุ่ง ได้อีกด้วย

                              บทบาทและลีลาของสะล้อ

                                - สะล้อใหญ่ มีลักษณะร่วมทางเสียงระหว่างสะล้อเล็กและสะล้อกลาง แต่เสียง
               ทุ้มต่ำ บทบาทคล้ายคนมีอายุมากไม่ค่อยมีลีลาและลูกเล่นมากนัก

                                - สะล้อกลาง บทบาทคล้ายคนวัยกลางคน มีลีลาสอดรับกับสะล้อใหญ่ และ

               สะล้อเล็ก
                                - สะล้อเล็ก บทบาทคล้ายคนวัยคะนอง มีเสียงแหลมเล็ก ลีลาโลดโผน ล้อและรับ

               กับเสียงสะล้อกลาง ซึง และขลุ่ย













                                          ภาพที่ ๑.๑๕ ส่วนประกอบของสะล้อ

                                     ที่มา: วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. ๒๕๖๑ : ออนไลน์












                     ณณฐ วิโย
   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65