Page 57 - ซอสองสายไทย : ณณฐ วิโย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 57

บทที่ ๑ ภูมิหลังซอไทย        ๓๙







                       “ซอ” ที่ปรากฏในดินแดนประเทศไทยปัจจุบัน


                              จากหลักฐานทางโบราณคดีที่พบในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง ย่อมแสดงให้เห็นว่า

                                                                                                    ั
                       ดินแดนในแถบนี้มีการละเล่นดนตรีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และด้วยการติดต่อสัมพนธ์กัน
                       ระหว่างชุมชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงทำให้เกิดการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องดนตรีแบบ

                                  ั
                                                                                                 ิ
                       ต่าง ๆ จนมีพฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้น และมีความคล้ายคลึงกันอยู่โดยทั่วไป กระทั่งได้รับอทธิพลทาง
                                                            ุ
                       วัฒนธรรมจากอนเดีย ซึ่งปรากฏชัดในราวพทธศตวรรษที่ ๑๐ เป็นต้นมา ดนตรีในประเทศไทยจึง
                                    ิ
                       ก้าวหน้าขึ้นอีกระดับหนึ่ง โดยมีแบบแผนการประสมวงและประเพณีการบรรเลงตามแบบแผนที่รับมา
                                                             ั
                           ิ
                       จากอนเดีย ซึ่งนำมาปรับใช้กับเครื่องดนตรีที่พฒนาขึ้นในท้องถิ่น หรือเป็นเครื่องดนตรีจากภายนอก
                       ที่ได้ปรับปรุงให้เหมาะสมกับความถนัดและความนิยมของคนท้องถิ่นแล้ว
                                                  ื้
                                            ั
                              ทั้งนี้ ในดินแดนอนเป็นพนที่ประเทศไทยปัจจุบัน นอกจากเครื่องดนตรีไทยประเภทเครื่องสี
                                                                                                         ี
                                                                  ู้
                       ตระกูล “ซอ” ซึ่งได้แก ซอสามสาย ซอด้วง และซออ ยังปรากฏว่ามีเครื่องดนตรีตระกูล “ซอ” อยู่อก
                                         ่
                       มากมายหลายชนิดที่พบเห็นได้ตามวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย ดังนี้

                              ซอในวัฒนธรรมดนตรีภาคเหนือ


                                     ๑. ตอยอฮอร์น
                                     ตอยอฮอร์น หรือตะยอฮอร์น เป็นเครื่องสายตระกลเครื่องสีของกลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่
                                                                              ู
                       ในเขตจังหวัดแม่ฮองสอน เป็นเครื่องดนตรีตระกูลซอไวโอลินที่ จอห์น แมตเธียส ออกัสตัส สโตรห์
                                      ่
                       (John Matthias Augustus Stroh) วิศกรไฟฟาชาวเยอรมันประดิษฐ์ขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศ
                                                              ้
                       องกฤษ เมื่อปี ค.ศ. ๑๘๙๙ (พ.ศ. ๒๔๔๒) และได้เรียกชื่อว่า สโตรไวโอลิน (Stroh Violin) มีรูปร่าง
                        ั
                       ลักษณะคล้ายไวโอลิน แต่มีการเพิ่มกล่องเสียงซึ่งทำเป็นรูปลำโพงโลหะ เหล็ก หรือทองเหลือง ที่มีส่วน

                       เชื่อมต่อออกมาจากหย่องของไวโอลิน โดยลำโพงโลหะนี้จะทำหน้าที่คล้ายไมโครโฟน เพอส่งต่อความ
                                                                                               ื่
                                                             ื่
                                                                                              ี
                       สั่นสะเทือนไปยังส่วนที่มีรูปร่างคล้ายกรวยเพอขยายเสียงจากลำตัวไวโอลินให้ดังขึ้นอก ส่วนวิธีการ
                       บรรเลง จะมีวิธีการและท่าทางในการบรรเลงคล้ายกับไวโอลิน โดยใช้มือซ้ายในการจับบริเวณคอของ

                       ตอยอฮอร์นเพอใช้นิ้วในการกดโน้ต ไม่นิยมใช้คางหนีบตัวไวโอลินแบบตะวันตก แต่จะใช้ดันไว้กับ
                                   ื่
                       แขนท่อนบนแทน และใช้มือขวาในการถือคันชัก

                                     ตอยอฮอร์น จะมีสายอยู่สี่สาย โดยการตั้งเสียงจะตั้งเสียงต่างจากไวโอลิน ดังนี้
                                            สายที่ ๑ ตั้งเป็นเสียง F หรือเสียง ฟา

                                            สายที่ ๒ ตั้งเป็นเสียง C หรือเสียง โด
                                            สายที่ ๓ ตั้งเป็นเสียง G หรือเสียง ซอล

                                            สายที่ ๔ ตั้งเป็นเสียง D หรือเสียง เร



                                                                                      มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62