Page 18 - พ่อดีเด่นราชภัฏ ประจำปี ๒๕๖๗ : สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 18

วิหาร และทรงดำรงอยู่ในเพศบรรพชิต เป็นเวลา ๑๕ วัน จึงทรงลาสิกขาเมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ.

               ๒๔๙๙


                      ในระหว่างทรงพระผนวช พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

               มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เป็นผู้สำเร็จราชการ

               เพื่อทรงปฏิบัติราชการแผ่นดินแทนพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติ

               พระราชกรณียกิจในตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้อย่างสมบูรณ์เป็นที่พอพระราชหฤทัย

               จึงได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศเฉลิมพระนามาภิไธยสถาปนาขึ้นเป็น “สมเด็จพระนาง

               เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๙


               การครองสิริราชสมบัติ


                      พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๙

               แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองสิริราชสมบัติยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์

                                                   ิ
               ชาติไทย โดยนับตั้งแต่ที่เสด็จขึ้นครองสิรราชสมบัติ พระองค์มีพระราชกรณียกิจมากมายเพื่อบำบัดทุกข์
               บำรุงสุขแก่ปวงชนชาวไทย สมดังที่ทรงสัญญาไว้ในพระราชหฤทัยว่า “ถ้าประชาชนไม่ ‘ทิ้ง’ ข้าพเจ้า

               แล้ว ข้าพเจ้าจะ ‘ละทิ้ง’ อย่างไรได้” หลังจากทรงได้ยินใครคนหนึ่งร้องตะโกนขึ้นในวันที่เสด็จ

               จากประเทศไทยไปศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ล้วนครอบคลุมศาสตร์

               และลักษณะงานหลากหลายสาขา อันแสดงให้ประจักษ์ถึงพระปรีชาสามารถ “รอบด้าน”

               พระองค์มีสายพระเนตรยาวไกล ด้วยทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศชาติ โดยการพัฒนาทั้งบุคลากร

               และทรัพยากรธรรมชาติแบบครบวงจร เพื่อให้ราษฎรในแต่ละท้องถิ่นสามารถพึ่งพาตนเองได้ นอกจากนี้

               เมื่อเกิดวิกฤตการณ์คับขันอันเป็นที่เดือดร้อนแก่พสกนิกร พระองค์จะทรงเป็นหลักในการหาหนทาง

               แก้ไขปัญหาวิกฤตินั้น ๆ จนสามารถขจัดปัญหาให้ลุล่วงไปด้วยดี ไม่ว่าต้นเหตุแห่งภาวะคับขันนั้น

               จะมาจากธรรมชาติหรือมนุษย์ พระองค์ทรงใช้คติธรรมและความเป็นเหตุเป็นผลเป็นหลักในการทรงงาน

               จึงก่อให้เกิดผลอันเป็นคุณอนันต์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง

                      พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพ


               ชีวิตของประชาชนทั้งในเรื่องการพัฒนาอาชีพ การสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การชลประทาน แหล่งน้ำ
               และการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงส่งเสริม ทำนุบำรุงการศึกษา ศาสนา


               และศิลปวัฒนธรรม อันเป็นรากฐานความเจริญทางด้านจิตใจของมนุษยชาติอีกด้วย ดังปรากฏ
               ในโครงการหลวงและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจำนวนหลายพันโครงการ อีกทั้งยัง


               พระราชทานแนวพระราชดำริเรื่อง “รู้รักสามัคคี” เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าอยู่ร่วมกันอย่าง
               สมานฉันท์ เพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวมเป็นสำคัญ พระราชทานแนวพระราชดำริเรื่อง




                                                           ๑๖
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23