Page 21 - ซอสองสายไทย : ณณฐ วิโย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 21

บทที่ ๑ ภูมิหลังซอไทย         ๓







                                                              ู
                                  บทเพลงจึงมีเนื้อร้องที่เป็นคำพดในภาษากลายเป็นบทเพลงที่สมบูรณ์
                                  เสียงที่ใช้ประกอบกันขึ้นเป็นทำนองเพลง ก็ขึ้นอยู่กับความเคยชินกับ

                                  ระบบเสียงตามธรรมชาติของตน เช่น คนไทยเราชินกับระบบเสียง ๕ เสียง
                                  ซึ่งคล้ายกับเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย แม้ว่าจะไม่ใช่อย่างเดียวกันก็ตาม

                                  ชาวตะวันตกเคยชินกับระบบ ๗ เสียงที่มีทั้งครึ่งเสียงและเสียงเต็ม

                                  ส่วนชาวอาหรับก็เคยชินกับเสียงที่มีช่วงเสียงแคบกว่าครึ่งเสียงของ
                                  ชาวตะวันตก และมีเสียงคราง (drone) ประกอบไปด้วย ทั้งนี้ ในแง่ของ

                                  เครื่องดนตรีนั้น ไม่ว่าชาติใด ๆ ในโลกก็ย่อมมีธรรมชาติในการบรรเลง
                                  เครื่องดนตรีอยู่ ๔ วิธีด้วยกันคือ การตี การเป่า การดีด และการสี

                                  ซึ่งคนไทยเราในฐานะที่เป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนชอบพดให้คล้องจองกัน
                                                                                 ู
                                  ว่า ดีด สี ตี เป่า และในกระบวนเครื่องดนตรีที่บรรเลงด้วยอาการทั้งสี่นี้
                                  เครื่องตีนับเป็นเครื่องดนตรีเก่าแก่ที่สุดที่ถือกำเนิดก่อนเครื่องดนตรี

                                  ที่บรรเลงด้วยวิธีอน ๆ และเครื่องดนตรีที่น่าจะเกิดขึ้นเป็นจำพวกล่าสุด
                                                 ื่
                                  เป็นประเภทเครื่องสาย ซึ่งพฒนามาจากธนูและหน้าไม้ ตัวอย่างที่ชัดเจน
                                                          ั
                                  ก็คือ ดุริยธนู (Musical bow) ซึ่งผู้เล่นจะคาบด้านหนึ่งของคันธนูเอาไว้

                                       ี
                                  แล้วอกมือหนึ่งดีดที่สายหรือใช้ไม้เล็ก ๆ ตีก็ได้ เช่น ลินู (linu) เครื่องดนตรี
                                  ในพธีศพของเผ่าฮลิ (Huli) ในปาปัวนิวกินี ดุริยธนูที่พฒนาขึ้นมาอกขั้นหนึ่ง
                                     ิ
                                                 ู
                                                                                         ี
                                                                              ั
                                    ื
                                  ก็คอการที่นำเอาสิ่งที่เป็นเครื่องช่วยให้มีเสียงดังขึ้น เช่น ผลน้ำเต้าแห้งนำไป
                                  ติดเข้าไว้กับคันธนูแทนการเอาปากคาบซึ่งจะทำให้ได้ยินเสียงได้ดีขึ้นอก
                                                                                               ี
                                                                ั
                                          ิ
                                  ดังเช่น พณน้ำเต้าของไทย ซึ่งการพฒนาขั้นสูงของเครื่องดนตรีประเภทนี้
                                  ก็คือ “ซอ” นานาชนิด รวมทั้งซอสามสาย ไวโอลิน ตลอดจนเครื่องดีด
                                  ชนิดต่าง ๆ ทั้งประเภท จะเข้ (Zither) และพิณ (Lute) ด้วย”



                              ในดินแดนประเทศไทย พบหลักฐานเกี่ยวกับเครื่องดนตรีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์
                       แรกเริ่มเดิมทีได้ประดิษฐ์รูปแบบดนตรีที่ใช้เสียงต่าง ๆ อย่างง่าย ๆ  แล้วเริ่มซับซ้อนขึ้นตามลำดับ

                                                                              ื่
                       ทั้งในตัวเครื่องดนตรีเองและวิธีการเล่นผสมผสานกับเสียงดนตรีอนอย่างหลากหลาย จนให้เสียงที่
                                                                                      ั
                       ประสานกลมกลืนอย่างมีเอกภาพ ดนตรีไทยจึงเป็นศิลปะชั้นสูงที่สะท้อนถึงพฒนาการทางวัฒนธรรม
                       อันยาวนานของประเทศชาติที่มีอารยธรรมรุ่งโรจน์มาแต่อดีต

                                                                  ุ
                              ดนตรีไทย มีรากเหง้าเก่าแก่อยู่ในภูมิภาคอษาคเนย์ราว ๕,๐๐๐ ปีมาแล้ว เป็นเครือญาติ
                       วัฒนธรรมร่วมของดนตรีสุวรรณภูมิบนพื้นแผ่นดินใหญ่อษาคเนย์ ดังนั้น ดนตรีไทยกับดนตรีสุวรรณภูมิ
                                                                    ุ
                       จึงเป็นดนตรีเดียวกัน มีความเป็นมายาวนานร่วมกันอย่างแยกไม่ได้ ทั้งนี้ สุวรรณภูมิ เป็นชื่อเก่าแก่มี




                                                                                      มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26