Page 22 - ซอสองสายไทย : ณณฐ วิโย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 22

๔         ซอสองสายไทย







                                                                       ุ
                                                                                   ิ
               ปรากฏในคัมภีร์โบราณ เช่น มหาวงศ์พงศาวดารลังกา ชาดกพทธศาสนาในอนเดีย และนิทาน
                          ิ
               เปอร์เซียในอหร่าน เป็นต้น ส่วนชาวฮั่น หรือจีนยุคโบราณ เรียกดินแดนแห่งนี้ว่าจินหลิน หรือกิมหลิน
               ซึ่งมีความหมายเช่นเดียวกันกับชื่อสุวรรณภูมิที่หมายถึง แผ่นดินทอง ดินแดนทอง แหลมทอง ฉะนั้น
                                                                                  ุ
               สุวรรณภูมิจึงไม่ใช่ชื่อรัฐหรืออาณาจักร แต่เป็นชื่อดินแดนแผ่นดินใหญ่ของอษาคเนย์หรือเอเชีย
                                                                            ิ
               ตะวันออกเฉียงใต้ปัจจุบันที่ขนาบด้วย ๒ มหาสมุทร คือ มหาสมุทรแปซิฟกอยู่ทางด้านตะวันออกกับ
               มหาสมุทรอนเดียอยู่ทางตะวันตก ส่งผลให้ดินแดนสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนค้าขาย
                         ิ
               หรือ “จุดนัดพบ” หรือ “สะพานแผ่นดิน” เชื่อมโยงระหว่างโลกตะวันตก ซึ่งหมายถึงอนโด-เปอร์เซีย
                                                                                       ิ
               และอาหรับ กับโลกตะวันออกซึ่งหมายถึงฮนและอน ๆ จนกระทั่งก่อให้เกิดความมั่นคงและมั่งคั่ง
                                                           ื่
                                                    ั่
                                                                 ู
               จนมีรัฐใหญ่ ๆ เกิดขึ้นในยุคต่อมา เช่น ทวารวดี ศรีวิชัย ฟนัน เจนละ ทวารวดีศรีอยุธยา อโยธยา
               ศรีรามเทพ ละโว้ จนถึงกรุงศรีอยุธยา ฯลฯ ดึงดูดให้ผู้คนจากที่ต่าง ๆ ทุกทิศทางเคลื่อนย้ายเข้ามา

                                                          ั
               ตั้งหลักแหล่ง ทำให้เกิดความหลากหลายทางชาติพนธุ์ที่ผสมผสานทางสังคมวัฒนธรรมและเผ่าพนธุ์
                                                                                                ั
               จนเป็น “คนไทย” วัฒนธรรมไทย และเครือญาติชาติประเทศต่าง ๆ ในปัจจุบัน (สุจิตต์ วงษ์เทศ.
               ๒๕๕๓ : ๓๐-๓๑)

                      หลัง พ.ศ. ๑๐๐๐ รัฐน้อยใหญ่ในดินแดนสุวรรณภูมิที่อยู่ใกล้ทะเล เริ่มรับเครื่องดนตรีจาก
               วัฒนธรรมที่ก้าวหน้ากว่าทั้งทางตะวันตกและตะวันออก มาใช้งานทางศาสนาและการเมือง

               การปกครองในราชสำนัก โดยรัฐน้อยใหญ่เหล่านี้ค่อย ๆ รับศาสนาพุทธ-พราหมณ์มาก่อนแล้ว จากนั้น
               ค่อย ๆ เติบโตขึ้นจากชุมชนบ้านเมืองดั้งเดิมที่ติดต่อแลกเปลี่ยนค้าขายบนเส้นทาง “การค้าโลก”

               ทางตะวันตก คือ ชมพทวีปหรืออนเดีย ลังกาทวีปหรือศรีลังกา เปอร์เซียหรืออหร่าน กับทางตะวันออก
                                 ู
                                                                               ิ
                                          ิ
                          ั่
               คือ จีนหรือฮน ทั้งนี้ เครื่องดนตรีจากตะวันตกในวัฒนธรรมอนโด-เปอร์เซีย คือ อินเดียกับอหร่านนั้น
                                                                                           ิ
                                                                  ิ
               แพร่เข้ามาพร้อมกับศาสนาพราหมณ มีเครื่องดนตรีที่รับมาหลายอย่าง โดยหนึ่งในนั้นคือ ซอสามสาย
                                              ์
               ซึ่งเปอร์เซียหรืออหร่าน เรียกว่า “กะมานเชะฮ” (Kamanche/Kamancheh) อินโดนีเซียและมาเลเซีย
                                                     ์
                              ิ
               เรียก “เรอบาบ” กัมพชาเรียก “โตรแขมร์” (ซอเขมร) เขมรสูงที่สุรินทร์เรียก “ซอกันตรึม” ทางล้านนา
                                 ู
               เรียก “สะล้อ” แต่รูปร่างและขนาดต่างกัน ส่วนเครื่องดนตรีจากวัฒนธรรมตะวันออก ซึ่งหมายถึง
               วัฒนธรรมจีนหรือฮน ได้แพร่เข้ามาพร้อมกับการค้า โดยมีเครื่องดนตรีที่รับมา เช่น เครื่องดีด คือ
                                ั่
                                                                                          ่
               พณ ๕ สาย และเครื่องสี มี ซอด้วง ซออ เป็นสำคัญ (คำว่า “ซอ” เป็นคำเขมร เขียน “ทร” อาน “ตรัว”
                                                ู้
                 ิ
               ล้านนาเรียก “สะล้อ หรือซอล้อ”) (เจนจิรา เบญจพงศ์. ๒๕๕๕ : ๔๘๒-๔๘๔)
                      ทั้งนี้ ในการรับเอาวัฒนธรรมต่าง ๆ มาจากต่างชาติที่เข้ามาในดินแดนแถบนี้นั้น มิได้เป็นการ
                                                                               ื่
               รับเอาแบบอย่างมาใช้เสียทั้งหมด แต่ยังมีการปรับปรุงดัดแปลงและพฒนาเพอให้เหมาะสมกับบริบท
                                                                         ั
               และสภาพทางสังคมของตนเองอกด้วย
                                          ี






                     ณณฐ วิโย
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27