Page 33 - ซอสองสายไทย : ณณฐ วิโย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 33
บทที่ ๑ ภูมิหลังซอไทย ๑๕
ุ
“อันว่าฝูงผู้ชายอนอยู่ในแผ่นดินอตรกุรุนั้นโสด รูปโฉม
ั
โนมพรรณเขานั้นงามดังบ่าวหนุ่มน้อยได้ ๒๐ ปี มิรู้แก่บมิรู้เฒ่าหนุ่มอยู่ดังนั้น
ชั่วตนทุก ๆ คน แลเขานั้นไส้เทียรย่อมกินข้าวแลน้ำสรรพาหารอันดีอันโอชา
รสนั้น แลแต่งแต่ตัวเขาทากระแจะแลจวงจันทน์น้ำมันอันดี แลมีดอกไม้หอม
ต่าง ๆ กัน เอามาทัดมาทรงเล่นแล้วก็เที่ยวไปเล่นตามสบาย บ้างเต้นบ้างรำ
บ้างฟอนระบำบรรลือเพลงดุริยดนตรี บ้างดีดบ้างสี บ้างตีบ้างเป่า บ้างขับ
้
สรรพสำเนียงเสียงหมู่นักดุนจุนกันไปเดียรดาษ พนฆ้องกลองแตรสังข์ระฆัง
ื้
กังสดาลมโหรทึกกึกก้องทำนุกดี...”
(พระญาลิไทย. ๒๕๖๔ : ๖๗-๖๘)
กับตอนที่กล่าวถึงความชื่นชมนิยมในพระบุญญาบารมีของสมเด็จพระมหาบรม
จักรพตราธิราชเจ้า ผู้ซึ่งเป็นใหญ่เหนือทวีปทั้ง ๔ และกล่าวพรรณนาถึงริ้วขบวนรี้พลโยธาที่ตามเสด็จ
ั
สมเด็จพระมหาบรมจักรพตราธิราชเจ้าไปบนอากาศ ก็ปรากฏข้อความที่กล่าวถึงการเล่นเครื่องดนตรี
ั
ประเภทเครื่องสี ตระกลูซอ ความว่า
ั
“อนว่าชนทั้งหลายนั้นยินดีตรีสนุกนิ์สุขสารสำราญบานใจแลชม
ชื่นหื่นเริงตาเกิงบรรจง มีองค์แต่งแง่แผ่ตนชมเล่นชมหัว แล้วแลร้องก้องขับ
ิ
เสียงพาทย์เสียงพณแตรสังข์ ทั้งเสียงกลองใหญ่แลกลองรามกลองเล็ก แลฉิ่ง
แฉ่งบัณเฑาะว์เสนาะวังเวง ลางคนตีกลองตีพาทย์ฆ้องตีกรับสรรพทุกสิ่ง ลาง
ิ
จำพวกดีดพณแลสีซอพุงดอแลกันฉิ่งริงรำ จับระบำเต้นเล่นสรรพนักคุน
ทั้งหลายสรรพดุริยดนตรีอยู่ครื้นเครง อลวลอลเวงดังแผ่นดินจะถล่มแล...”
(พระญาลิไทย. ๒๕๖๔ : ๘๐)
ุ
สำหรับเครื่องดนตรีที่เรียกว่า “ซอพงดอ” หรือ “ซอพงตอ” ซึ่งได้กล่าวถึงในไตรภูมิ
ุ
พระร่วงนี้ อุทิศ นาคสวัสดิ์ สันนิษฐานว่าเป็น “ซอสามสาย” ดังข้อความที่ได้อธิบายไว้ ดังนี้
“...เครื่องดนตรีไทยยุคกรุงสุโขทัยนี้คงแบ่งเป็นประเภทและ
ชนิดต่าง ๆ ได้ดังนี้ คือ ประการแรก เป็นประเภทเครื่องดีดและสี เครื่องดีด
ิ
ในสมัยกรุงสุโขทัยที่ปรากฏอยู่ในหนังสือไตรภูมิพระร่วงก็เห็นมีแต่ “พณ”
ิ
ิ
ี
อย่างเดียว แต่พณย่อมแบ่งออกเป็นหลายชนิด เช่นอาจเป็น พณเพยะ หรือ
กระจับปี่ ฯลฯ ตามข้อความที่กล่าวนี้เข้าใจว่าคงเป็นกระจับปี่มากกว่า
ุ
ิ
เพราะมีอยู่ตอนหนึ่งกล่าวว่า “ลางจำพวกดีดพณและสีซอพงตอ” สันนิษฐาน
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

