Page 38 - ซอสองสายไทย : ณณฐ วิโย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 38

๒๐        ซอสองสายไทย







               ซอสามสาย เพราะซอสามสายเสียงเบาไม่เหมาะที่จะมาเล่นในที่กลางแจ้ง และด้วยมักถือกันว่า
                                                       ู้
                                                                              ู้
               ซอสามสายเป็นซอระดับสูงกว่าซอด้วงและซออ นอกจากนี้ ซอด้วงและซออเป็นเครื่องดนตรีที่หาง่าย
               และเล่นง่ายกว่าซอสามสาย (สงัด ภูเขาทอง. ๒๕๓๙ : ๒๔๕)
                              นอกจากนี้ ยังปรากฏข้อความที่กล่าวถึงการเล่นดนตรีประเภทเครื่องสี ตระกูล

               “ซอ” ของชาวกรุงศรีอยุธยา ในจดหมายเหตุลาลูแบร์ ซึ่งเป็นจดหมายเหตุพงศาวดารที่บันทึกเรื่องราว

               และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในราชอาณาจักรสยามช่วงปลายรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
                                                         ั
               พ.ศ. ๒๒๓๐ โดย มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ เอกอครราชทูตผู้มีอำนาจเต็มของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔
               แห่งฝรั่งเศส ที่เข้ามายังกรุงสยามเมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๒๓๐ และเดินทางกลับเมื่อวันที่
                                                               ึ
               ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๒๓๑ โดย ลาลูแบร์ ได้พรรณนารำพงรำพนความประทับใจที่ได้รับการต้อนรับ
                                                                    ั
                                                       ื่
               แห่แหนด้วยขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา เพอมารับตัวท่านและคณะเข้าสู่พระนครศรีอยุธยา
               ซึ่งมีการกล่าวถึงการละเล่นของชาวกรุงศรีอยุธยา ความว่า

                                     “...มีผู้คนเกือบ ๓,๐๐๐ ในเรือยาว ๗๐ หรือ ๘๐ ลำ มาร่วม

                                                ั
                                                           ิ
                           ขบวนแห่แหนคณะเอกอครราชทูตพเศษ ลอยลำขนาบไปเป็นสองแถว
                                            ั
                                                       ิ
                           ให้เรือของคณะเอกอครราชทูตพเศษอยู่ตรงกลางทุกลำคึกคักเคลื่อนไหว
                           ไม่หยุดยั้ง จักษุประสาทนั้นจ้องมองอยู่กับสิ่งเพลิดเพลินเจริญตา
                           นานาประการ และจำนวนลำเรือที่มาร่วมขบวนแห่แหนกับความงาม
                           ของน่านน้ำ หากโสตประสาทนั้นได้รับความสำราญจากเสียงกึกก้องแต่

                           ไพเราะ ด้วยเสียงเห่, เสียงโห่ และเสียงกระจับปี่สีซอ สิ่งเหล่านี้ไม่เหลือรอย
                           ให้คาดคิดว่าโดยธรรมดาแล้วน่านน้ำนี้ก็มีแต่ความเงียบสงบอยู่เป็นนิจ

                           ในยามราตรีก็งามไปอีกอย่างหนึ่ง เพราะเรือยาวแต่ละลำก็จุดประทีปโคมไฟ

                           ของตนขึ้น และมีศัพท์สำเนียงอันแสนเสนาะแว่ววิเวกมาในราตรีกาล”

                                                         (ลาลูแบร์, ซิมอน เดอ. ๒๕๕๗ : ๑๔๑)


                                                                      ั
                              ลาลูแบร์, ซิมอน เดอ (๒๕๕๗ : ๑๕๗) เอกอครราชทูตฝรั่งเศส ยังได้กล่าวถึง
               เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสี ตระกูล “ซอ” ไว้ในตอนที่ ๒ ว่าด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีของ
               ชาวสยามโดยทั่ว ๆ ไป โดยปรากฏข้อความในบทที่ ๖ ว่าด้วยการแสดงและการละเล่นอย่างอนของ
                                                                                             ื่
               ชาวสยาม ที่ลาลูแบร์ได้สังเกตเห็นจากการแสดงโขน ความว่า










                     ณณฐ วิโย
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43