Page 35 - ซอสองสายไทย : ณณฐ วิโย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 35
บทที่ ๑ ภูมิหลังซอไทย ๑๗
ิ
“...ผิเมื่อพระอนทร์เจ้าเทศนานั้น ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ เอา
บริวารไปเฝ้าไปคัลทั้ง ๔ ทิศ แห่งสุธรรมาเทวสภาคศาลานั้น แลคนธรรพ ์
เทพบุตรทั้งหลายก็เอาสรรพดุริยดนตรีทั้งหลายไปบำเรอ บ้างดีด บ้างสี
บ้างตี บ้างเป่า บ้างขับ บ้างรำ ในปลายเขากำแพงจักรวาลทั้ง ๔ ด้าน
ถวายแด่พระอินทร์เจ้าดังกล่าวก่อนนั้นแล ฯ”
(พระญาลิไทย. ๒๕๖๔ : ๑๖๐)
จากหลักฐานดังกล่าวนี้ทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ว่า ในสมัยสุโขทัยนั้นมีเครื่องดนตรี
ประเภทเครื่องสี ตระกูลซอ ปรากฏเป็นที่แน่ชัดแล้ว
สมัยอยุธยา (พ.ศ. ๑๘๙๓-๒๓๑๐ หรือพุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๔)
กรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทย บริเวณที่แม่น้ำสำคัญ
๓ สายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำป่าสัก ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์
ต่อภาคการเกษตรกรรมอนเป็นพนฐานของการตั้งถิ่นฐานมนุษย์ เป็นชุมทางคมนาคมที่เอออำนวยต่อ
ื้
ั
ื้
การค้าทั้งภายในและภายนอก จนทำให้เมืองอยุธยาเติบโตเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการค้า
ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๓
ทั้งนี้ พนที่บริเวณเมืองอยุธยาได้ปรากฏร่องรอยการอยู่อาศัยมาก่อนการสถาปนา
ื้
กรุงศรีอยุธยา โดยมีหลักฐานในพระราชพงศาวดารที่กล่าวถึงการสร้างพระเจ้าพแนงเชิง เมื่อปี
ุ
พทธศักราช ๑๘๖๗ เป็นพระพทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่ ที่แสดงให้เห็นว่าขณะนั้นชุมชนบริเวณนี้
ุ
มีขนาดใหญ่ มีฐานะทางเศรษฐกิจมั่นคง จึงมีทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ในการสร้างพระพทธรูป
ุ
ขนาดใหญ่ขึ้นได้
ู่
กระทั่งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ หรือพระเจ้าอทอง ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้น
เป็นศูนย์กลางทางการเมืองการปกครอง เมื่อปีพทธศักราช ๑๘๙๓ โดยรวบรวมกลุ่มการเมืองของ
ุ
ั
สองรัฐใหญ่เก่าแก่ซึ่งมีมาแต่ดั้งเดิมที่มีความสัมพนธ์ทางด้านเครือญาติเข้าด้วยกัน ได้แก่ รัฐละโว้
(เมืองลพบุรี) กับรัฐสุพรรณภูมิ (เมืองสุพรรณบุรี) ต่อจากนั้นกรุงศรีอยุธยาได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นโดยลำดับ
มีการขยายดินแดนออกไปอย่างกว้างขวาง สืบต่อมาถึง ๔๑๗ ปี มีพระมหากษัตริย์ปกครองแผ่นดิน
สืบต่อกันมา ๓๔ พระองค์ จาก ๕ ราชวงศ์ และสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์
องค์สุดท้ายก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะสิ้นสุดลงในปีพทธศักราช ๒๓๑๐ ทำให้ศูนย์กลางของประเทศไทย
ุ
ต้องย้ายลงมากรุงธนบุรีและกรุงเทพมหานครตราบจนถึงทุกวันนี้
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

