Page 40 - ซอสองสายไทย : ณณฐ วิโย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 40
๒๒ ซอสองสายไทย
เสียงไม่สู้ดังนัก เป็นหม้อดินเผาคอยาวและแคบแต่ไม่มีก้น ใช้หนังควายขึง
และตีด้วยมือ ใช้เป็นเสียงทุ้มในวงดนตรี เสียงคนขับร้องก็ไม่เลว...”
(แชรแวส นิโกลาส์. ๒๕๖๑ : ๑๑๖)
ิ
ในตอนที่ว่าด้วยพธีกรรมทางศาสนาของชนชาวสยาม ได้กล่าวถึงการประโคมดนตรี
ุ
ด้วยเครื่องดีดสีตีเป่าของชาวกรุงศรีอยุธยา ในพิธีการทางพระพทธศาสนาที่สำคัญ ๆ ดังความตอนหนึ่งว่า
ั
ุ
“...เขาตกแต่งพระพทธปฏิมากรด้วยสิ่งอนหาได้ยากและที่
งดงามที่สุดเท่าที่จะหาได้ในท้องถิ่นนั้น เขาตามประทีปเทียนขึ้นเป็นอนมาก
ั
และประดับด้วยดอกไม้นานาพรรณ ลางทีก็เชิญพระปฏิมากรทองคำ
ิ
องค์เล็ก ๆ ลงเรือ ทองสุกปลั่ง แต่ถ้าเป็นพธีกรรมบนบกแล้ว เหล่าภิกษุ
ุ
ก็แบกพระพทธปฏิมากรไว้บนบ่าพาเดินไปมีสัปทนกั้น ประโคมด้วย
เครื่องดีดสีตีเป่าและเสียงโห่ร้องของประชาชน...”
(แชรแวส นิโกลาส์. ๒๕๖๑ : ๑๔๓)
หรือในตอนที่ว่าด้วยภิกษุสงฆ์และการอปสมบท ก็ได้กล่าวถึงการเล่นเครื่องดีดสี
ุ
ตีเป่า เพื่อร่วมเฉลิมฉลองสมโภชพระบวชใหม่ ความว่า
“...ครั้นแล้วก็มีการเลี้ยงพระภิกษุทุกรูปที่มาชุมนุมร่วมในพธี
ิ
และถวายของแก่พระสังฆราชเป็นอนมาก วันนั้นเขาจะแบกพระบวชใหม่ไป
ั
บนบ่า มีผู้คนติดตาม เล่นเครื่องดีดสีตีเป่า และให้ศีลให้พรนานาประการ...”
(แชรแวส นิโกลาส์. ๒๕๖๑ : ๑๕๗)
ทั้งยังได้กล่าวถึงการบรรเลงดนตรีทั้งเครื่องดีดสีตีเป่า ไว้ในตอนที่ว่าด้วยการทำศพ
ิ
ของชนชาวสยาม ซึ่งเป็นพธีการที่จะกระทำกันอย่างมโหฬารและมีพธีรีตองเป็นอย่างมาก ดังความ
ิ
ตอนหนึ่งว่า
“...เมื่อสิ้นวันที่สามแล้วเขาก็นำศพนั้นเข้าโลงที่ทาสีและทาทอง
ไม่มีการห่อหุ้มศพให้มิดชิดแต่ประการใด ใช้เสื่อปูให้รองนอน แล้วก็แต่งกาย
ศพด้วยเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เสร็จแล้วพระสงฆ์ก็มาชุมนุมกัน มีการตีกลอง
ื่
เป่าขลุ่ย ลั่นฆ้องและบรรเลงเครื่องดีดสีตีเป่าชนิดอน ๆ บิดามารดาและมิตร
สหายของผู้ตายนุ่งขาวห่มขาว ภรรยาและญาติที่ใกล้ชิดก็นุ่งขาวห่มขาวและ
โกนศีรษะเกลี้ยง...”
(แชรแวส นิโกลาส์. ๒๕๖๑ : ๑๘๐)
ณณฐ วิโย

