Page 49 - ซอสองสายไทย : ณณฐ วิโย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
P. 49
บทที่ ๑ ภูมิหลังซอไทย ๓๑
สมัยรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๓๒๕-ปัจจุบัน)
หลังจากที่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกปราบดาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่ง
กรุงรัตนโกสินทร์พร้อมกับการสถาปนาราชวงศ์จักรีขึ้นในปี พ.ศ. ๒๓๒๕ โดยทรงเฉลิมพระนามว่า
“พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดีฯ” แต่ในสมัยปัจจุบันนี้จะนิยมขานพระนามว่า
ุ
“พระบาทสมเด็จพระพทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช” พระองค์ได้ทรงย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีข้าม
้
แม่น้ำเจ้าพระยามายังฝั่งตะวันออก และโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างพระบรมมหาราชวังและ
พระอารามหลวง คือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในเขตพระบรมมหาราชวังตามแบบกรุงศรีอยุธยา
ื่
ุ
เพอเป็นที่ประดิษฐานพระพทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ซึ่งการสร้างเมืองและ
พระบรมมหาราชวังนี้เป็นการสืบทอดประเพณี วัฒนธรรม และศิลปกรรมดั้งเดิมของชาติ ที่ยึดถือ
ิ
ปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงประกอบพธียกเสาหลักเมือง เมื่อวันอาทิตย์
ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล จ.ศ. ๑๑๔๔ ตรงกับวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ โดยการสร้างราชธานี
ใหม่นั้นใช้เวลาทั้งสิ้น ๓ ปี และเมื่อสร้างสำเร็จเสร็จสิ้นได้พระราชทานนามแก่ราชธานีแห่งใหม่นี้ว่า
“กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุทธยา มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราช
ุ
นิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยะวิษณกรรมประสิทธิ์” (พระบาทสมเด็จพระจอม
เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ทรงเปลี่ยน “บวร” เป็น “อมร”)
โดยในช่วงการก่อร่างสร้างเมืองนี้ สยามยังคงต้องผจญกับศึกสงครามรอบบ้าน
อยู่เสมอ รวมทั้งสงครามครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การรบระหว่างสยามกับพม่าด้วย นั่นคือศึกที่
เรียกว่า “สงครามเก้าทัพ” ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าประดุงแห่งหงสาวดี แต่กองทัพสยามก็
้
ุ
สามารถขับไล่ทัพพม่าออกไปได้ในที่สุด ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระพทธยอดฟา
จุฬาโลกมหาราช ยังได้ทรงฟนฟูขวัญกำลังใจให้กับประชาชนที่ยังหวาดผวากับศึกพม่าเมอครั้งสงคราม
ื่
ื้
คราวเสียกรุงศรีอยุธยารวมทั้งตลอดสมัยกรุงธนบุรี ด้วยการนำแบบแผนต่าง ๆ ของราชสำนักอยุธยา
ุ
มาใช้ รวมทั้งอัญเชิญพระพทธรูปสำคัญมาไว้ที่กรุงเทพมหานครด้วย วัดพระศรีรัตนศาสดารามนับเป็น
แบบอย่างชัดเจนที่พระองค์ทรงระดมช่างฝีมือซึ่งหลงเหลืออยู่ในเวลานั้น มาสร้างพระราชวังและ
พระอารามหลวงที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ เสมือนยกเอายุครุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยามาไว้ยังกรุงเทพมหานคร
ื้
ู
นอกจากนี้ ยังทรงมีพระราชดำริให้ฟนฟศิลปวัฒนธรรมครั้งใหญ่ รวมทั้งการรวบรวมตำรับตำราจาก
หัวเมืองต่าง ๆ ที่รอดพนจากการถูกพม่าเผาเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๐ มาเก็บไว้ที่กรุงเทพมหานคร ทั้งยังมี
้
การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ ที่เคยปรากฏมีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเพอให้ดำรงอยู่ต่อไป
ื่
ั
โดยเฉพาะงานทางด้านดนตรีไทยได้มีการพฒนามาเป็นระยะ ๆ มีการบูรณาการความคิด และ
สร้างสรรค์ผลงานโดยศิลปินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแต่งเพลง วิธีการร้อง การบรรเลง รวมทั้งการ
ประดิษฐ์เครื่องดนตรีและการประสมวง
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

